วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ข้อสอบนวัตกรรมและสารสนเทศข้อ 3

3.ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการใช้กระบวนการทางกฎหมาย ( กฎหมายว่าด้วยการกระทำ
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ) เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรม ในสังคมจาก
การใช้คอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด จง
อภิปราย ถึงประเด็นที่ เกี่ยวข้องให้เป็นรูปธรรม

ตอบ เห็นด้วยกับการใช้กระบวนการทางกฎหมาย(กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิด
เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550) เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมในสังคมจากการใช้คอม-
พิวเตอร์หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด เพราะเราจะพบว่า
ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้เข้ามามี
บทบาท และทวีความสำคัญเพิ่มขึ้นตามลำดับ ต่อระบบเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของ
ประชาชนในประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกันการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก็
มีแนวโน้มขยายวงกว้างและทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยขอสรุป ประเด็นต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับนี้เป็นด้าน ๆ ดังนี้
1. ความผิดสำหรับแฮกเกอร์ สรุปได้ดังนี้
1.1 ) เข้าเว็บสาธารณะย่อมไม่มีความผิด แต่ผู้ที่เจาะระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่
สร้างระบบป้องกันไว้มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท แต่ถ้า
เจาะเข้าไปถึงข้อมูลที่เก็บรักษาไว้ด้วยโทษจะเพิ่มเป็น 2 เท่า
1.2) ผู้ที่เผยรหัส ( password ) ที่ตัวเองรู้มาสำหรับเพื่อใช้เข้าระบบคอม-
พิวเตอร์มีโทษ จำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
1.3 ) ผู้ที่ดักจับข้อมูลที่เป็นส่วนตัวซึ่งส่งถึงกันทางอินเทอร์เน็ต ทาง e-mail มีโทษ
จำคุก ไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 60,000 บาท
2. ความผิดสำหรับผู้ที่ปล่อยไวรัส
2.1) ผู้ที่ทำลายข้อมูลหรือไปเปลี่ยนข้อมูลของผู้อื่นไม่ว่าด้วยวิธีการใดจะใช้ ไวรัสหรือ
แอบ เข้าไปทำลายมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
2.2) การทำลายข้อมูลผู้อื่น ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนประเภทคอมพิวเตอร์
ควบคุม จราจรโทษสูงขึ้นเป็น จำคุก 10 ปี ปรับ 200,000 บาท ถ้ากระทบถึง
ความมั่นคงประเทศ โทษจะสูงขึ้นเป็นจำคุก 3 – 15 ปี ถ้าจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่
ความตาย โทษจะหนักถึงจำคุก 10 – 20 ปี
3. ความผิดของผู้ที่ก่อกวนหรือแกล้งผู้อื่น
3.1) ผู้ที่ส่งอีเมล์ก่อกวนหรือโฆษราขายสินค้าหรือขายบริการ ประเภทไปโผล่ pop
up หรือผู้ที่ส่งเมล์ขยะโดยที่ผู้รับไม่ต้องการมีโทษปรับอย่างเดียว ไม่เกิน 100,000
บาทโทษฐานก่อความรำคาญ
3.2) ผู้ที่ส่งเมล์เป็นข้อมูลปลอม ข้อมูลเท็จ ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น เป็นข่าวลือปล่อยข่าวให้
เกิดความวุ่นวายรวมถึงส่งภาพลามกอนาจารทั้งหลายทั้งหลาย รวมถึง ผู้ที่ได้รับแล้วส่ง
ต่อด้วยมีโทษ เท่ากัน คือจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
3.3) ผู้ที่ตัดต่อภาพของผู้อื่นแล้วนำเข้าเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ทำให้เจ้าของภาพ
เสียหาย อับอาย ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 600,000 บาท
4. ความผิดของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการมีหน้าที่ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้บริการ
อย่างน้อย 90 วัน เพื่อให้สามารถหาตัวผู้ใช้บริการสำหรับให้ตรวจสอบได้ มิฉะนั้น
ผู้ให้บริการจะต้องรับโทษ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท การกระทำความผิดตาม
กฎหมายนี้แม้จะกระทำในรอบราชอาณาจักรไม่ว่าคนไทยหรือคนต่างด้าว ถ้าเกิดความ
เสียหายไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศก็ต้อง รับโทษตามกฎหมายนี้ แต่ปัญหา
ที่ตามมาก็คือ การกระทำความผิดในระบบคอมพิวเตอร์ทางอินเตอร์ เน็ตนี้จะจับได้
อย่างไรในทางปฏิบัติ กฎหมายให้อำนาจเรียกข้อมูลจากผู้ให้บริการหรือเจ้าของเว็บ
ทั้งหลาย รวมทั้ง มีอำนาจที่จะเข้าไปติดตาม ตรวจสอบ คัดเลือก ในระบบคอมพิวเตอร์
ของใครก็ได้ ถ้ามีเหตุ อันควรเชื่อถือได้ว่ามีการกระทำความผิด แต่การใช้อำนาจเจาะ
เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ ของผู้อื่นตามกฎหมายฉบับนี้นั้น จะต้องขออนุญาตต่อศาล
เสียก่อนจะกระทำโดยพละการ ไม่ได้ หากเจ้าหน้าที่เปิดเผยข้อมูลที่ใช้อำนาจที่ไปเจาะ
ข้อมูลมาโดย ไม่มีอำนาจ เจ้าหน้าที่มีความผิดด้วย โดยต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
ปรับไม่เกิน 60,000 บาทและแม้ ไม่ได้ตั้งใจจะเปิดเผยแต่ ด้วยความประมาททำ
ให้ข้อมูลหลุดเข้าระบบ อินเทอร์เน็ตก็ต้องรับโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน
20,000 บาท กฎหมายว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.
2550 เป็น กฎหมายที่ดีมีประโยชน์ เพราะทำให้ประเทศไทยได้ชื่อเสียงว่ามีกฎหมาย
ด้านกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับอารยประเทศทั้งหลายช่วย
ป้องปรามให้เกิดกระทำความผิดเกี่ยวกับคอม- พิวเตอร์น้อยลงและช่วยให้สามารถ
ดำเนินการตามกฎหมายได้รวดเร็ว เป็นต้น อย่างไร ก็ตามเช่น เดียวกับกฎหมายฉบับ
อื่น ๆ ก็ต้องมีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ๆ อาทิ ควรมี ข้อยกเว้นให้ส่ง เบาะแสการ
กระทำความผิดให้เจ้าหน้าที่ที่ผ่านอินเทอร์เน็ต ควรออก กฎหมายใหม่เกี่ยวกับคอม-
พิวเตอร์ ให้ครบถ้วนยิ่งขึ้นและควรปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่ ให้ครอบคลุม มากขึ้น เพื่อ
ประโยชน์ ของทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง
******************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น